เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ต้องคิดอย่างหนักในการวางสไตล์การเล่นของทีมสู้กับ อาร์เซน่อล ที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรง ฉะนั้นในตอนนี้เรื่องความมั่นใจถือว่าแข้ง อาร์เซน่อล ค่อนข้างเหนือกว่าแต่สิ่งหนึ่งที่ ลิเวอร์พลู ถือว่าได้เปรียบนั่นก็คือพวกเขาไม่เคยแพ้ให้ อาร์เซน่อล ดังนั้นงานนี้ต้องมาลุ้นกัน
1. มาเน่ ถูกโฉลกกับ อาร์เซน่อล
แม้ว่าในเวลานี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะเป็นคีย์แมนของ ลิเวอร์พูล ก็ตาม แต่ฟอร์มของ ซาลาห์ ในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างสะดุดนิดหน่อย ขณะที่ อาร์เซน่อล ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าบ้านยังมีตัวทีเด็ดอยู่นั่นก็คือ ซาดิโอ มาเน่ ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นนักเตะตัวแสบที่ อาร์เซน่อล ต้องระวังให้ดีๆ
2. เจ้าบ้านมีนักเตะบาดเจ็บเพียบ
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น่าจะพลาดลงสนามในเกมนี้หลังจากได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังหัวเข่า ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็ยังไม่แน่ว่าจะลงสนามได้หรือเปล่า ขณะที่นักเตะรายอื่นต้องซ่อมแซมร่างกายไม่ว่าจะเป็น นาบี เกอิต้า, เคอร์ติส โจนส์, เจมส์ มิลเนอร์ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ด้วยเหตุนี้ทำให้แผงกองกลางของทีมมีตัวเลือกที่จำกัด ส่วน โจ โกเมซ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยังไม่ฟิตจนกว่าจะถึงเดือนหน้า
3. อาร์เซน่อล กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแรง
ในช่วงต้นซีซั่นนี้หลายคนสบประมาทว่า มิเกล อาร์เตต้า เตรียมจะโดนเด้งได้เลยหลังนำ อาร์เซน่อล แพ้รวด 3 เกมติดต่อกัน อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น อาร์เตต้า สามารถปรับจูนทีมได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันพวกเขาไม่แพ้ใครเลย 8 แมตช์ติดต่อกัน โดยเสมอแค่ 2 เกมเท่านั้น ส่งผลให้ตอนนี้ทีมพุ่งขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 แล้ว
4. ลิเวอร์พูล มีสถิติเยี่ยมในการรับมืออาร์เซน่อล
หนึ่งในสิ่งที่ อาร์เซน่อล ค่อนข้างหวาดหวั่นคือพวกเขาไม่เคยเอาชนะ ลิเวอร์พูล ในลีกได้เลยนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2012 ประเด็นที่ อาร์เตต้า น่าจะนำมาใช้ในการปลุกเร้าลูกทีม คือการลบสถิติที่ในลีกเยือนแอนฟิลด์ และการเก็บ 3 คะแนน เพื่อที่จะขยับอันดับแซง ลิเวอร์พลู และกลับมามีลุ้นแชมป์เต็มตัว
5. สามแต้มเพื่อกลับมาลุ้นแชมป์
คล็อปป์ ต้องกระตุ้นลูกทีมให้กับมาเล่นด้วยความดุดันอีกครั้ง หลังจากเกมลีก 2 แมตช์ล่าสุดพวกเขาเก็บได้เพียงแต้มเดียวเท่านั้น ส่งผลให้ตอนนี้ต้องหล่นไปอยู่อันดับ 4 และห้ามพลาดเด็ดขาดในแมตช์นี้ไม่งั้นพวกเขาจะหลุดท็อปโฟร์
