ลิเวอร์พูล โดน ไตโว อโวนิยี่ เด็กเก่าทำพิษ แถมสภาพทีมยังดูพิการเพิ่มอีก ขณะที่ ซิตี้ กราวนด์ ก็ยังเป็นถิ่นอาถรรพ์
ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสที่จะขึ้นไปรั้งอันดับ 5 ของตาราง พรีเมียร์ลีก เป็นการชั่วคราว หลังจากออกไปแพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่สนาม ซิตี้ กราวนด์ 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม ส่งผลให้ ลิเวอร์พลู ยังมีแค่ 16 คะแนนจาก 11 นัด รั้งอันดับ 7 เหมือนเดิม และมีสิทธิ์หล่นไปอีกเพราะลงเล่นก่อนทีมอื่น
1. เด็กเก่าทำพิษ
ฟอเรสต์ ได้ประตูออกนำ 1-0 และเป็นประตูชัยในนาทีที่ 55 จาก ไตโว อโวนิยี่ กองหน้าทีมชาติไนจีเรีย ซึ่งเคยอยู่กับ ลิเวอร์พูล ระหว่างปี 2015-2021 แต่ไม่ได้โอกาสลงเล่นเลย โดยส่วนใหญ่ถูกส่งไปให้ทีมอื่นยืมตัวและเกมนี้ก็สร้างความเจ็บแสบให้ทีมเก่า อีกด้วย
2. หงส์พิการ
ก่อนลงสนามเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เผยว่า ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ ดาร์วิน นูนเญซ ไม่สามารถลงเล่นได้ โดยรายแรกมีอาการหูอักเสบหลังตื่นขึ้นมาเมื่อเช้า ส่วนรายหลังบาดเจ็บที่ต้นขามาจากนัดชนะ เวสต์แฮม 1-0 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาในช่วงกลางครึ่งแรก เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีอาการบาดเจ็บที่หลัง แต่ยังดีที่ไม่รุนแรงหลังเจ้าตัวสามารถกลับมาเล่นต่อไปจนจบเกม
3. ซิตี้ กราวนด์ ถิ่นอาถรรพ์ของ ลิเวอร์พูล
จากความพ่ายแพ้ในนัดนี้ ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ไม่ชนะ 6 เกมเยือนใน พรีเมียร์ลีก ที่พบกับ ฟอเรสต์ ที่สนาม ซิตี้ กราวนด์ และ ฟอเรสต์ก็ไม่แพ้ในเกมลีกสูงสุดตลอด 13 นัดที่เล่นในบ้านเจอ ลิเวอร์พลู นับตั้งแต่ปี 1984
4. ครองบอลเหนือกว่าแต่ไร้แต้ม
ลิเวอร์พูล ครองบอลเกมนี้สูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ ฟอเรสต์ ครองบอลได้แค่ 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่กลายเป็นเจ้าถิ่นที่ได้สามคะแนนเต็ม
5. โกเมซ ร่างทองหายไปไหน?
โจ โกเมซ ยังได้ลงมาเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวจริงร่วมกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เหมือนเดิม แต่เกมนี้ โกเมซ ไม่มีความนิ่งเอาเสียเลย แถมเล่นพลาดง่ายๆ จนต้องเสียใบเหลือง และนำไปสู่การเสียประตูในที่สุด ทำให้อาจจะไม่ได้โอกาสลงตัวจริงอีกหากเซนเตอร์แบ็กคนอื่นหายเจ็บกลับมา
