ในที่สุด อาร์เซน่อล ก็ปลดแอกได้สำเร็จเมื่อเปิดบ้านกำชัยเหนือ ลิเวอร์พลู ได้ด้วยสกอร์ 3-2 จากการฟาดแข้งศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ต.ค.
นอกจากจะเอาชนะ ลิเวอร์พลู ได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว อาร์เซน่อล ยังแย่งตำแหน่งจ่าฝูงกลับคืนมาจาก แมนฯ ซิตี้ ได้สำเร็จซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าซีซั่นนี้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า มีศักยภาพมากพอที่จะได้ร่วมลุ้นคว้าแชมป์อย่างเต็มตัวแล้ว
1.ปืนโต ปรับทัพแค่รายเดียว
อาร์เซน่อล เปลี่ยนโผ 11 ตัวแรกแค่รายเดียวจากเกมชนะ สเปอร์ส ทีมร่วมเมือง 3-1 ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โดย ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ปราการหลังทีมชาติ ญี่ปุ่น ได้ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก เป็นตัวจริงนัดแรกของซีซั่น แต่เป็นตำแหน่งที่เจ้าตัวไม่ถนัด
2.หงส์ ส่งชุดเดิมบู๊พร้อมระบบใหม่
ด้าน ลิเวอร์พูล บุกมาเยือนด้วยขุนพล 11 ตัวเดิมทั้งหมดจากเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ที่พวกเขาเปิด แอนฟิลด์ คว่ำ เรนเจอร์ส 2-0 พร้อมทั้งใช้ระบบการเล่น 4-4-2 เป็นเกมที่สองติดต่อกันอันเป็นการเน้นเกมรุกอย่างเต็มที่
3.วินาทีที่ 58
เขี่ยบอลกันยังไม่ทันมีเหงื่อซึม ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายตาข่ายขาดผึงอย่างเร็วจี๋ในวินาทีที่ 58 เท่านั้นจากฝีเท้าของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ต่อประตูที่ว่าของดาวยิงแซมบ้า มีการตีแผ่ออกมาว่าเป็นประตูที่ทีม อาร์เซน่อล ใช้เวลาเร็วที่สุดในการทำรปะตู ลิเวอร์พลู ได้ในเกม พรีเมียร์ลีก
4.ปัญหามา ปัญญาไม่เกิด
หลังเสียประตูก่อน ลิเวอร์พูล ก็เพิ่มสถิติในทางลบด้วยการตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งก่อนอีกจนได้ซึ่งพวกเขายังแก้ไม่ตกมาจนถึงป่านนี้
5.ฟีร์มิโน่ ของแสลงทีม
อาร์เซน่อลแม้จะได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองช่วงท้ายครึ่งแรกแทนที่ หลุยส์ ดิอาซ ที่บาดเจ็บ แต่ถึงยังไง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ก็ยังเป็น ฟีร์มิโน่ คนเดิมที่ขยันยิงประตู อาร์เซน่อล ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเจ้าตัวทำแสบใส่ทีมเมืองกรุงอีกจนได้จากการกระทุ้งให้ทีมเยือนตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 53
